เพอร์เฟคฯ เปิดตัวโครงการใหม่ “เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ–ราชพฤกษ์” เตรียม Pre-Sale 1-2 ก.ค.นี้

เพอร์เฟค เปิด “เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ – ราชพฤกษ์ โครงการใหม่ ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ยุโรป Modern Classic สเปซใหญ่ ฟังก์ชั่นใหม่ รองรับชีวิตเมืองบนทำเลถนนหอการค้าไทยเดินทางสะดวก 5 นาทีถึงถนนแจ้งวัฒนะ ราคาเริ่ม 5.29 ลบ.

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดโครงการใหม่ เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ ภายใต้แนวคิด “Urban Life & Dream Ville” ชีวิตในเมืองที่เมืองในฝัน เน้นตอบโจทย์การเป็นบ้านหลังแรกของกลุ่มวัยเริ่มทำงานและครอบครัวรุ่นใหม่ในโซนแจ้งวัฒนะและราชพฤกษ์ พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตเมืองให้สะดวกสบายครบทุกความต้องการ     

เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ – ราชพฤกษ์ มีมูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท พื้นที่โครงการ 37 ไร่ จำนวน 204 ยูนิต โดยปรับเปลี่ยนสไตล์ใหม่หมดทั้งภายนอกและภายในให้เป็นแบบบ้านใหม่สไตล์ Modern Classic เน้นความหรูหราแบบยุโรปผสานกับความโมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กว้างมากขึ้น เริ่มต้นที่ 134-173 ตร.ม. รวมทั้งออกแบบฟังก์ชั่นใหม่ให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน Lifestyle Connecting Area เชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านรวมถึงพื้นที่สีเขียว Lifestyle Flexi Function เพิ่มห้องนอนที่ 4 ชั้นล่างรองรับการเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ Lifestyle Kitchen Studio ครัวขนาดใหญ่ Lifestyle Innovation Smart Airflow นวัตกรรมระบบระบายอากาศกรองฝุ่น PM2.5 ช่วยลดอุณหภูมิและความอับชื้นเพิ่มคุณภาพอากาศที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย ภายในโครงการพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ 

สำหรับ เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ – ราชพฤกษ์ตั้งอยู่บนถนนหอการค้าไทย ทำเลแห่งการอยู่อาศัย ซึ่งบริษัทยังมีการพัฒนาโครงการบนทำเลดังกล่าวแล้วถึง 6  โครงการ ตอกย้ำถึงความนิยมในทำเลแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ยังใกล้โรงเรียนนานาชาติ SISB นนทบุรี ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีถึงถนนแจ้งวัฒนะ สะดวกด้วยสะพานพระราม 4 สู่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ท่าอากาศยานดอนเมือง และเมืองทองธานี ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนขั้นที่ 2 แจ้งวัฒนะ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการเดือน มิ.ย.67 และที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรบินสัน ราชพฤกษ์, โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทำให้โครงการอยู่ในทำเลศักยภาพมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เปิดให้จอง Pre-Sale ในวันที่ 1-2 ก.ค. นี้ พร้อมให้เลือกบ้านแปลงสวยและรับสิทธิพิเศษเฉพาะวันงานเท่านั้น ในราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท

PF-GRAND ปี64เดินหน้าสู่โหมด“เทิร์นอะราวด์”ปรับกลยุทธ์ ขายที่ดินและการลงทุน 20,200 ล้าน จับธุรกิจใหม่กำไรสูง

“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสท” เผยแผนปี 2564 เทิร์นอะราวด์ด้วยการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจ ขายที่ดินและการลงทุน รวม 20,200 ล้าน เพื่อทำกำไรและลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1.2 เท่า พร้อมก้าวสู่ธุรกิจใหม่กำไรสูงดีมานด์สูงผลิตส่งออกถุงมือยาง ด้านธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ เพอร์เฟค ตั้งเป้าขาย 17,300 ล้าน แกรนด์ แอสเสทฯ วางเป้า 1,100 ล้าน คาดรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้แตะระดับ 21,370 ล้าน ขณะที่จะมีรายได้จากโครงการร่วมทุนและธุรกิจถุงมือยางอีก 7,000 ล้าน

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินงานปี 2564 ว่า กลุ่มบริษัทวางแผนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อพลิกกลับมาสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยมีแผนทั้งการขายที่ดินที่ไม่มีแผนพัฒนาโครงการและสิทธิการเช่า รวมถึงขายการลงทุนในโรงแรมและจัดตั้งกองทรัสต์ รวม 20,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวทางที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น ต้นทุนทางการเงินลดลง และลดภาระหนี้ โดยตั้งเป้าหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ระดับ 1.2 สำหรับธุรกิจหลักจะขับเคลื่อนให้มีรายได้เติบโต สานต่อโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ โดยบริษัทไม่มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันนับจากปี 2562

“ในปีนี้ กลุ่มบริษัทยังขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งมีดีมานด์สูงและกำไรสูงได้แก่ ธุรกิจผลิตและส่งออกถุงมือยาง ที่จะช่วยเสริมสร้างรายได้ในระยะยาว โดยประมาณการรายได้รวมปีนี้จะอยู่ที่ 21,370 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 13,070 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสทฯ 2,100 ล้านบาท และรายได้จากการขายที่ดินและการลงทุน 6,200 ล้านบาท ขณะที่ยังจะมีรายได้จากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,000 ล้านบาท และธุรกิจถุงมือยาง 3,000 ล้านบาท

สำหรับแผนธุรกิจของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ปีนี้วางเป้าขาย 17,300 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 12,000 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 2,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียมในประเทศ 2,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมประเทศญี่ปุ่น 800 ล้านบาท จากการที่เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวลดลง บริษัทจึงชะลอการเปิดโครงการใหม่ โดยเปิดเพิ่ม 6 โครงการ มูลค่า 9,930 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด สำหรับโครงการร่วมทุนที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้ เป็นการร่วมทุนกับ ฮ่องกงแลนด์ ตั้งอยู่บนทำเลบางนา-สุวรรณภูมิ ในคอนเซ็ปท์บ้านริมทะเลสาบขนาด 100 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,100 ล้านบาท รวมถึงยังจะสร้างยอดขายต่อเนื่องจาก 2 โครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ และ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี และโครงการในโซนกรุงเทพตะวันตก ที่จะได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าและโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู

ปีนี้ บริษัทยังมีสินค้าใหม่เซกเมนต์ใหม่บ้านเดี่ยว 3 ชั้นและโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น ใจกลางเมืองทำเลพหลโยธินเพิ่มเติม สำหรับแนวคิดการพัฒนาโครงการ นอกจากการพัฒนารูปแบบบ้านให้รองรับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่แล้ว ปีนี้ยังเพิ่มบริการด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภค อาทิ การให้ลูกบ้านสามารถใช้บริการพื้นที่ทำงาน (Work from Hotel) ได้ทุกโรงแรมในเครือแกรนด์ แอสเสทฯ รองรับการติดตั้ง EV Charger ด้วยการเดินระบบไฟ และติดตั้ง VDO Doorbell ในโครงการเปิดใหม่ ร่วมกับ AIS ให้บริการสัญญาณ AIS 5G ที่โรงแรมและโครงการต่างๆ เป็นต้น

ด้าน นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ วางเป้าขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,100 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 500 ล้านบาท และ วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรม สถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากกับธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สำหรับปีนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง โดยประมาณการรายได้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แผนการดำเนินงานในปี 2564 จึงยังมุ่งเน้นไปที่ตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ตั้งเป้าให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 50%

นอกเหนือจากธุรกิจหลักแล้ว บริษัทยังรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่และสร้างกำไรให้เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยเห็นโอกาสจากความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือยาวนานทั้งในและต่างประเทศ จัดตั้ง บริษัท แกรนด์ โกลบอล โกลฟส์ จำกัด (GGG) เพื่อผลิตและจำหน่ายถุงมือยางสังเคราะห์ (Nitrile) ภายใต้แบรนด์ GGG สู่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีอัตราการใช้ถุงมือยางสูง เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น โดยได้ลงทุนสร้างโรงงานบนเนื้อที่ 21 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม ทีเอฟดี 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 2 อาคาร ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารหลังแรก ที่มี 8 สายการผลิต มีกำลังการผลิต 21 ล้านกล่องต่อปี หรือ 2,100 ล้านชิ้นต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเมษายนนี้ และเริ่มดำเนินการผลิตได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนอาคารหลังที่ 2 มีกำหนดแล้วเสร็จปลายปีนี้ มีจำนวนเครื่องจักร 8 เครื่อง กำลังการผลิตรวม 21 ล้านกล่องต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตถุงมือยางธรรมชาติควบคู่ไปกับถุงมือยางไนไตรล์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดโลก โดยรายได้จากธุรกิจถุงมือยางในปีนี้ประมาณการไว้ที่ 3,000 ล้านบาท.